ซื้อรถมือสอง โอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง มีค่าโอนรถยนต์หรือไม่?

188 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ซื้อรถมือสอง โอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง มีค่าโอนรถยนต์หรือไม่?

ขั้นตอนการโอนรถมือสอง ที่คุณจำเป็นจะต้องรู้
 

การโอนรถหลังจากตัดสินใจซื้อรถยนต์ คือขั้นตอนที่ “สำคัญ” มากๆ เลยก็ว่าได้ แต่ในส่วนของขั้นตอนการโอนไม่ได้มีความยุ่งยากหรือซับซ้อนอย่างที่คิด สามารถโอนได้ภายในเวลาไม่นาน โดยมีรายละเอียดขั้นตอนดังนี้

 

1. นำรถยนต์ตรวจสภาพที่ง่ายตรวจสภาพรถ
2. ยื่นเรื่อง “โอนกรรมสิทธิ์” และชำระค่าธรรมเนียมที่งานทะเบียนรถ
3. รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน
4. รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือจดทะเบียนรถ เครื่องหมายการเสียภาษี และแผ่นป้ายทะเบียนรถ
*หมายเหตุ : การโอนกรรมสิทธิ์รถ (โอนรถ) จะต้องยื่นเรื่องแจ้งต่อนายทะเบียน ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด (ตามใบคู่มือจดทะเบียนรถ) พร้อมกับแจ้งต่อนายทะเบียน 15 วัน นับตั้งแต่วันโอน ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียค่าปรับ จำนวน 2,000 บาท
 

โอนรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง
 

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่หลายคนไม่ควรมองข้าม ก็คือ “เอกสาร” ในการโอนรถยนต์ ที่จำเป็นจะต้องเตรียมไปให้ครบถ้วน โดยเอกสารต่างๆ ก็มีดังนี้

 

1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือเล่มทะเบียนรถตัวจริง
2. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
3. สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี
4. แบบคำขอโอนและรับโอน ที่กรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอน
5. เอกสารเพิ่มเติมกรณีนิติบุคคล : ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
กรณีผู้โอนหรือผู้รับโอนไม่ได้มาดำเนินการ : ใช้หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบ
กรณีรับมรดก : ใช้สำเนาใบมรณบัตรเจ้าของรถ และคำสั่งศาลหรือพินัยกรรมพร้อมสำเนา

 

ค่าใช้จ่ายโอนรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
 

“ค่าโอนรถ” หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อว่า “ค่าธรรมเนียม” ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าว จำเป็นจะต้องตระเตรียมเอาไว้ให้พร้อม ก่อนเดินทางไปดำเนินเรื่องที่สำนักงานขนส่ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง โดยค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์ก็มีดังนี้…

 

ค่าคำขอ 5 บาท
ค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท
ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพรถ 50 บาท
ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ต่อการประเมินราคารถ 100,000 บาท
ค่าเปลี่ยนป้ายทะเบียน 200 บาท (กรณีผู้ซื้อต้องการเปลี่ยน)
ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียน 100 บาท (กรณีเล่มทะเบียนเก่าชำรุดฉีกขาด)
ในส่วนของราคาหรือรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับบริการอื่น ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์หลักของ “กรมการขนส่งทางบก” ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

 

ความแตกต่างระหว่าง โอนรถยนต์ VS โอนรถมอเตอร์ไซค์
 

หลายคนสงสัยว่า ? มอเตอร์ไซค์มีการโอน ค่าโอน หรือเอกสารโอนรถที่ต้องเตรียมเหมือนกันหรือไม่ ? ขอตอบว่ามีขั้นตอนการโอนรถยนต์เหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่การโอนรถมอเตอร์ไซต์จะต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน แล้วจึงค่อยดำเนินการกรอกแบบฟอร์มคำขอ ซึ่งต่างจากรถยนต์แค่ลำดับการตรวจสภาพเท่านั้น ทั้งนี้แนะนำให้เตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพื่อที่คุณจะได้ไม่เสียเวลานาน ๆ ที่กรมขนส่งทางบกยังไงล่ะ !

 

โอนรถยนต์แล้ว ต้องโอน “ประกันรถ” ด้วยหรือไม่ ?
 

หลังจากที่ทำการโอนรถยนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ประเด็นต่อมาก็คือการ “โอนประกันรถยนต์” ให้เสร็จเรียบร้อย ในกรณีที่ซื้อรถมือสอง แล้วมีประกันติดมาด้วย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ 2 วิธี ดังนี้

 

1. ประกันรถยนต์ไม่ระบุผู้ขับขี่
หากประกันไม่ได้ระบุชื่อคนขับ ก็สามารถต่อประกันได้ทันที โดยผู้ซื้อจะได้รับความคุ้มครองตามประกันรถยนต์ที่ติดมาตามเดิม สำหรับขั้นตอนและเอกสารก็มีดังนี้

สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของเดิม พร้อมเซ็นยินยอมการโอนประกันให้เจ้าของใหม่
เจ้าของใหม่ต้องยื่นใบซื้อขายเพิ่ม เพื่อแจ้งขอเปลี่ยนชื่อผู้เอาประกัน
ส่งเอกสารไปยังบริษัทประกันรถยนต์ เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนประกันรถยนต์แล้ว
 

2. ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่
หากประกันระบุชื่อคนขับเอาไว้ จำเป็นจะต้อง “ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้ขับขี่” กับทางบริษัทประกัน โดยการเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

เจ้าของใหม่ต้องกรอกแบบฟอร์มโอนชื่อ “ผู้รับผลประโยชน์” จากเจ้าของเดิมมาเป็นของตน
ยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐานการซื้อขายให้กับบริษัทประกันรถยนต์ เสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนประกันรถยนต์
 

สอบถามเพื่มเติมได้ที่  
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้