จะเป็นอย่างไรถ้าข้อมูลส่วนตัวของคุณที่ให้กับ บริษัทประกันรถยนต์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง

61 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จะเป็นอย่างไรถ้าข้อมูลส่วนตัวของคุณที่ให้กับ บริษัทประกันรถยนต์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง

เลือก สินเชื่อรถยนต์ ที่ใช่ตามใจคุณ
 

      แล้วประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยหลัก ๆ แล้วจะให้ความคุ้มครองอะไรบ้างนะ ? ไปดูคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

 

      ต้องอธิบายก่อนว่าประกันภัยรถยนต์มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ภาคบังคับก็คือการประกันภัย พ.ร.บ. ที่มีผลบังคับทางกฎหมาย และภาคสมัครใจก็คือการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ หากเลือกทำก็มีหลายประเภทให้เลือก เช่น ประเภท 1, ประเภท 2, ประเภท 3 เป็นต้น

 

คุ้มครองรถยนต์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ต่าง ๆ เช่น รถหาย ไฟไหม้ รถชน น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลูกเห็บ หรือลมพายุ
 

คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาล รวมถึงในกรณีที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ก็จะประกันในส่วนของการประกันตัวผู้ขับขี่ด้วย
 

คุ้มครองคู่กรณีไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือบุคคล ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือรถยนต์เกิดความเสียหาย
 
      ซึ่งประกันแต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่า “ประเภท 1” หรือประกันรถยนต์ ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด และให้วงเงินที่สูงกว่าประเภทอื่น ๆ แต่ก็แน่นอนว่าเบี้ยก็ต้องสูงกว่าเช่นเดียวกัน หากคุณสนใจก็สามารถเข้าไปเปรียบเทียบเบี้ยประกัน และความคุ้มครองต่าง ๆ กับ MrKumka ได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้ประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์คุณได้มากที่สุด

 

      อย่างไรก็ตามแม้การคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันรถยนต์ในปัจจุบันจะทำได้ง่าย คุ้มครองได้ทันทีแบบออนไลน์ แต่กรมธรรม์ที่คุณทำก็อาจถูกยกเลิกได้ด้วยเงื่อนไขบางข้อ มาจากการตรวจสอบข้อมูลของเอาประกันที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทีนี้สาเหตุที่ทำให้ทางประกันยกเลิกสัญญากรมธรรม์ที่คุณทำไว้จะมีอะไรได้บ้างล่ะ

 


 

สาเหตุหลักที่บริษัทประกันยกเลิกสัญญา !
 

      หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า “บริษัทประกันมีสิทธิ์ในการบอกเลิกประกันได้” แล้วสาเหตุที่ทำให้ประกันถูกยกเลิกมีอะไรบ้าง ? ไปดูคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

 

1. ปกปิดหรือเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง
 

      ซึ่งตามปกติแล้วการทำประกันภัยรถยนต์ มักจะมีการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาเงื่อนไขตามกรมธรรม์ที่คุณสนใจ แต่ถ้าหากคุณปกปิดหรือให้ข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง เมื่อบริษัทตรวจพบในภายหลัง แน่นอนว่านอกจากคุณจะไม่รับความคุ้มครองใด ๆ แล้ว ยังเสี่ยงที่จะโดยบริษัทยกเลิกประกันได้อีกด้วย แล้วแบบไหนล่ะที่เป็นข้อยกเว้นของบริษัทประกันรถยนต์ ? เรามีคำตอบมาให้คุณ ดังนี้

 

ใช้รถยนต์ในทางที่ขัดต่อกฎหมาย เช่น ปล้น หรือขนยาเสพติด เป็นต้น
นำรถไปแข่งขันความเร็ว
ขับรถออกนอกพื้นที่คุ้มครอง เช่น ขับเที่ยวต่างประเทศ
รถถูกขับโดยผู้ที่ไม่มีใบขับขี่ หรือเคยมีแต่ถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมาย
เมาแล้วขับ (มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)
ใช้นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้ เช่น จดไว้ว่าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
นำรถไปลากจูงคันอื่น โดยที่ไม่ได้ทำประกันในส่วนนี้
 

      ปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้น ขอย้ำว่าขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัทประกันเป็นสำคัญ แนะนำว่าก่อนจรดปลายปากกาเพื่อเซ็นสัญญา ให้อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้ครบถ้วนก่อนจะดีที่สุด

 
2. ประวัติการเคลมผิดปกติ
 

      แน่นอนว่าจุดประสงค์ของการทำประกันรถยนต์ ก็เพื่อแบ่งเบาภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ รถหาย รถจมน้ำ รถไฟไหม้ และอื่น ๆ แต่หลังจากที่ทำประกันไปได้ไม่นาน ก็มีการเคลมประกันเข้ามาทันที หรือเคลมบ่อยจนผิดสังเกต บริษัทอาจทำการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง ก็มีสิทธิ์ที่บริษัทประกันรถยนต์จะบอกเลิกสัญญาได้

 
3. ทุจริตในการเคลมประกัน
 

      คุณรู้ไหมว่าการจัดฉากอุบัติเหตุรถยนต์ในซีรีส์ดัง ๆ เพื่อขอเคลมประกันรถยนต์ สามารถพบเจอได้ในชีวิตจริงแบบนับครั้งไม่ถ้วน เรียกว่าแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ และถ้าหากพบว่าผู้ทำประกันตั้งใจโกง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม บริษัทมีสิทธิ์ยกเลิกประกันได้ทันที นอกจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองแล้ว ยังอาจจะโดนฟ้องร้องในส่วนของการทุจริตด้วยก็ได้

สอบถามเพื่มเติมได้ที่   
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-7856

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้