4 วิธีดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถ ให้สีรถยนต์ใหม่อยู่เสมอ ไม่มีหมอง

848 จำนวนผู้เข้าชม  | 

4 วิธีดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถ ให้สีรถยนต์ใหม่อยู่เสมอ ไม่มีหมอง

เข้าใจ.. เรื่องประเภทสีรถ เพื่อการดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถยนต์ ที่เหมาะสม
 

ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นตอนการดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถยนต์ เรามาทำความเข้าใจประเภทสีกันก่อนดีกว่า เพราะสีรถยนต์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติ และวิธีดูแลรักษารถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

 

1. Solid Paint
Solid Paint เป็นสีรถยนต์ “เนื้อสีเดียว” ที่คุณสามารถเลือกได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เช่น สีขาว สีแดง สีดำ และสีเทา มีข้อดีคือหากต้องการเปลี่ยนสีใหม่ ราคาจ่ายจะไม่สูงมาก แถมยังดูแล/ซ่อมแซมได้ง่าย ในกรณีที่มีรอดขูดขีดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถใช้สีเดียวกันแต้มได้เลย
 

2. Metallic
Metallic เป็นสีที่เพิ่ม “ผงโลหะ” ช่วยให้รถยนต์ของคุณมีความแวววาวมากกว่า Solid Paint เล็กน้อย แถมยังมีคุณสมบัติในการช่วย “ซ่อน” รอยเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้
 

3. Pearlescent
Pearlescent หรือที่หลายคนคุ้นเคยดีในชื่อว่า “สีมุก” ซึ่งเปลี่ยนจากผงโลหะมาเป็น “เซรามิกคริสตัล” แทน นอกจากจะช่วยให้รถมีความโดดเด่นตามการหักเหของแสงแล้ว ยังช่วย “ปกปิด” ร่องรอยที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้เป็นอย่างดี แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง
 

4. Matte Finishes
Matte Finishes หรือ “สีด้าน” เป็นสีที่สร้างความโดดเด่นให้กับตัวรถได้ดี แต่ก็แลกมาด้วยราคาจ่ายค่อนข้างสูง แถมดูแลรักษาค่อนข้างยาก แม้จะเป็นรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
 

ซึ่งสีแต่ละประเภทจะมีความโดดเด่นเฉพาะตัว และคุณสามารถเลือกได้เองตามความชอบส่วนตัว หากต้องการความเรียบง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก สี 2 ประเภทแรกก็ถือว่าตอบโจทย์แล้ว แต่ถ้าหากต้องการให้รถสวยงามมากขึ้น และมีกำลังจ่ายที่กำลังดี การเลือกใช้สีมุกก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีกว่า

 


 

เคล็ดลับ “ดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถยนต์” ให้ฉ่ำวาวอยู่ตลอดทำยังไง ?
 

หลังจากทำความเข้าใจประเภทสีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำความเข้าใจ “วิธีการดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถยนต์” ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะมีวิธีดูแลที่ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แถมค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ทำเองก็ได้ ใช้ผู้เชี่ยวชาญก็ดี แต่จะมีวิธีการแบบไหนบ้าง ? ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

 

1. เมื่อพบรอยเปื้อน ควรเช็ดออกในทันที
ไม่ว่ารอยเปื้อนที่คุณพบเห็นจะมาจากยางไม้ ยางมะตอย ขี้นก หรือใด ๆ ก็ตาม ควรที่จะเช็ดออกหรือล้างออกในทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด เพราะจะทำให้สีรถยนต์ของคุณหม่นหมอง และด่างเป็นจุด ๆ ไม่สวยงาม

 
2. ล้างรถ เคลือบสีรถ “อย่างน้อย” สัปดาห์ละครั้ง
วิธีการนี้ถือเป็นวิธีการที่ง่ายมาก แถมยังสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน สำหรับการล้างรถด้วยตัวเอง แนะนำให้ใช้ฟองน้ำ 2 อัน อันแรกใช้สำหรับล้างผิวรถ โดยจะเป็นฟองน้ำที่ไม่มีเศษใด ๆ ติดอยู่เลย และอันที่สองใช้สำหรับล้างล้อ รวมถึงช่วงล่าง นอกจากนี้ในส่วนของขั้นตอนการ “เช็ดรถ” ก็จำเป็นจะต้องใช้ผ้าที่เนื้อนุ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้รถเป็นรอย เกิดรอยขนแมวตามมาในภายหลัง

 

จากนั้นเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบสีรถยนต์สักหน่อย เพื่อป้องกันเศษฝุ่นมาเกาะรถได้ง่ายแถมยังช่วยให้ความเงางามอยู่กับคุณได้นานกว่าอีกด้วยหลังจากล้างรถในแต่ละรอบ

 

Tips : การที่รถเปียกฝน “ไม่ใช่การล้างรถ” แต่อย่างใด หากจำเป็นต้องใช้รถในวันที่ฝนตก เมื่อเสร็จธุระแล้วควรล้างทำความสะอาดทุกครั้ง หรือหากไม่สะดวก ให้พยายามล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันคราบสกปรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของความหมองในรถฝังแน่น

 
3. ขัดสีรถ
หากรถของคุณหม่นหมองขั้นสุด หรือสีรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว การขัดสีรถถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยชั้นดี ที่จะทำให้สีรถยนต์ของคุณกลับมาฉ่ำวาวเหมือนเดิม แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อย เนื่องจากการขัดจะทำให้แลคเกอร์บางลง และที่สำคัญการขัดสีรถจะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อย่าได้คิดทำเองเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องหาวิธีแก้ไขรถเป็นรอยที่เกิดขึ้นกันอีกบาน

 
4. ติดฟิล์มรถยนต์กันรอย
สำหรับวิธีการนี้ ส่วนใหญ่มักจะเห็นตาม “รถหรู” ที่นิยมทำกัน โดยจะเป็นในลักษณะของการติดสติกเกอร์ใส ติดฟิล์มรถยนต์รอบคัน มีราคาจ่ายที่ค่อนข้างสูง และอย่าได้คิดหันไปติดฟิล์มรถยนต์ที่ไม่มีคุณภาพ เพราะเห็นว่าราคาถูกกว่าเด็ดขาด หากไม่อยากปวดหัวในตอนที่ฟิล์มหลุดลอกออกมาในภายหลัง

 
และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการดูแลรักษารถยนต์ ทำสีรถยนต์ที่ง่าย และใช้เวลาเพียงไม่นาน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของสีด้วยเช่นกัน หากรถยนต์ของคุณเป็นสีประเภท Solid Paint หรือ Metallic ก็จะใช้เวลาซ่อมรถ แก้ไขรถเป็นรอย ลบรอยขีดข่วนต่าง ๆ ไม่นาน แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างถูก ในบางครั้งอาจจะใช้วิธีการ “แต้ม” สีเดียวกันลงไป ก็ทำให้รถของคุณกลับมาสวยดังเดิมแล้ว (แนะนำให้แต้มโดยผู้ที่มีประสบการณ์ เช่น อู่ซ่อม หรือศูนย์บริการจะดีที่สุด)


สอบถามเพื่มเติมได้ที่  
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้