อากาศร้อน ส่งผลอะไรกับรถยนต์บ้าง

อากาศร้อนส่งผลอะไรกับอุปกรณ์รถยนต์บ้าง
ยางรถยนต์
แน่นอนอยู่แล้วว่ายางกับความร้อนไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อยางเจออากาศที่ร้อนจัดก็จะทำให้ความดันภายในยางนั้นมากขึ้นอาจทำให้แก้มยางปูด ซึ่งแน่นอนว่าหากยางเสื่อมสภาพ แก้มยางปูดก็จะส่งผลต่อการขับขี่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

น้ำมันเครื่อง
หากน้ำมันเจอความร้านที่สูงขึ้นนั่นมีผลต่อเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน เพราะน้ำมันจะทำการปกป้องเครื่องยนต์ไม่ได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น หรือการปกป้องเครื่องยนต์ไม่ได้ประสิทธิภาพนั่นเอง

เครื่องปรับอากาศหรือแอร์รถยนต์
แน่นอนว่าแอร์รถยนต์นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนใช้รถเลยก็ว่าได้ ยิ่งอากาศร้อยจัดยิ่งทำให้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศมีการทำงานหนักมากขึ้นอาจทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น และแน่นอนว่าความทรมานเมื่อไม่มีแอร์ในรถนั้นก็คือความร้อนและอบอ้าวเหมือนอยู่ในเตาอบเลยก็ว่าได้

ระบบหล่อเย็น
น้ำหล่อเย็นนั้นมีหน้าที่หล่อเลี้ยงอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการทำงาน แต่ยิ่งถ้ามีอากาศร้อนจัดก็จะทำให้การทำอุณหภูมิในห้องเครื่องให้อยู่สภาวะที่เหมาะสมได้ยาก ซึ่งมีโอกาศที่จะทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนเกินด้วย

แบตเตอรี่
หลายคนคงได้ยินมาว่าอากาศเย็นมีผลต่อแบตเตอรี่ ต้องก่อนว่าอากาศร้อนก็ส่งผลต่อแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากอากาศร้อนจัดก็จะยิ่งทำให้แบตเตอรี่นั้นมีความร้อนที่สูงขึ้นไปอีก ทำให้ส่งผลในเรื่องของการจ่ายไฟไม่ทัน ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟด้วยเช่นกัน

เครื่องยนต์
เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดยิ่งทำให้รถของเรานั้นมีการทำงานหนักมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์นั้นมีความร้อนสูงส่งผลต่ออุปกรณ์ต่างด้วยเช่นกัน เช่นหม้อน้ำแห้ง หรือแอร์ไม่ค่อยเย็น หากมีไฟสัญลักษณ์เตือนอุณหภูมิ ก็ไม่ควรที่จะฝืนขับต่อไปเพราะนั่นจะส่งผลให้รถเกิดอาการโอเวอร์ฮีทได้

เห็นอย่างนี้อากาศร้อนถือว่าเป็นอันตรายต่อรถยนต์ของเราอย่างมากเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ผลกระทบแล้ว เราก็มาดูวิธีดูแลรักษารถยนต์ของเรากันดีกว่า

วิธีดูแลรถหน้าร้อน มีอะไรบ้าง?
เลี่ยงการจอดรถในที่โล่งแจ้ง
 ถือเป็นวิธีที่ง่ายสุดในการทำไม่ให้รถเจอความร้อนจัด ซึ่งการจอดรถตากแดดนั้นมีผลต่อสีของตัวรถยนต์ด้วยเช่น เพราะจะทำให้สีของรถนั้นซีดเร็ว

เปิดกระจกและประตูก่อนจะสตาร์ทรถ
เนื่องจากข้างนอกมีอากาศที่ร้อนอบอ้าวมากๆ ทำให้ภายในห้องโดยสารรถยนต์นั้นก็มีความร้อน และอบมากด้วยใช่กัน เพราะฉะนั้นทางที่ดีก่อนที่จะสตาร์ทรถควรเปิดกระจกและประตูเพื่อเป็นการระบายอากาศภายที่ร้อนออกซะก่อน และเมื่อสตาร์ทรถแล้วควรเปิดแอร์ในระดับพัดลมก่อนสักพัก แล้วค่อยปรับมาเป็นแอร์เย็น

ตรวจเช็กหม้อน้ำและแผงรังผึ้งอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งสองส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ หากหม้อน้ำมีจุดที่รั่ว และรังผึ้งมีสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ก็จะส่งผลให้เครื่องยนต์นั้นมีความร้อนสูงกว่าปกติ รวมถึงหมี่นตรวจเช็กระดับน้ำในหม้อน้ำด้วยเช่นกัน

ควรติดเครื่องไว้สักพักก่อนออกตัว
ในกรณีที่จอดรถไว้ที่กลางแจ้งซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความร้อนสูงนั้น ก่อนใช้งานรถขอแนะนว่าควรจะสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ก่อนสักพัก เพื่อให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนที่สะสมอยู่ ซึ่งวิธีนี้ยังถือเป็นการรักษาสภาพเครื่องยนต์ไว้อีกด้วย

สอบถามเพื่มเติมได้ที่   
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785