มากกว่าล้างแต่คือการดูแล ร้านคาร์แคร์ แคร์รถคุณได้อย่างไรบ้าง ?

343 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มากกว่าล้างแต่คือการดูแล ร้านคาร์แคร์ แคร์รถคุณได้อย่างไรบ้าง ?

ปัจจุบันร้านล้างรถหรือ ร้านคาร์แคร์ ที่บ้านเราเรียกกันมีให้บริการทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตามท้องถนน ปั๊มน้ำมัน หรือแม้กระทั่งห้างสรรพสินค้า ซึ่งช่วยมอบความสะดวกสบายในการดูแลรักษารถยนต์และช่วยให้ประหยัดเวลาได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียวสำหรับคนรักรถที่ไม่สะดวกล้างรถด้วยตัวเอง โดยแต่ละแห่งก็จะมีการดูแลรักษารถยนต์ ทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงในเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน


ค่าใช้จ่ายในร้านคาร์แคร์ อยู่ที่เท่าไร ?
ร้านคาร์แคร์ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่ล้างรถแล้วจบไปเท่านั้น แต่ยังสมชื่อในเรื่องการดูแลรักษารถยนต์อย่างถึงที่สุด มีบริการเสริมอื่น ๆ ที่ “คนรักรถ” จำเป็นจะต้องเลือกใช้บริการหลายระดับ เพื่อให้การดูแลรักษารถยนต์ของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด

รถเก๋งขนาดเล็ก บริการล้างรถดูดฝุ่น 120 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 160 บาท
รถเก๋งขนาดใหญ่/กระบะแค็บ บริการล้างรถดูดฝุ่น 140 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 180 บาท
รถยนต์ 4 ประตู บริการล้างรถดูดฝุ่น 160 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 200 บาท
รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ MVP บริการล้างรถดูดฝุ่น 180 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 220 บาท
รถตู้ บริการล้างรถดูดฝุ่น 200 บาท / ล้างอัดฉีด 240 บาท
“ราคา” บริการล้างรถดูดฝุ่นส่วนใหญ่จะเป็นราคาพื้นฐานในร้านล้างรถหรือร้านคาร์แคร์ทั่วไป ซึ่งอาจจะถูกกว่าหรือแพงกว่าขึ้นอยู่คาร์แคร์ผู้ให้บริการด้วย และจะเป็นราคาที่คิดกันตามประเภทรถยนต์(ขนาดรถ) โดยเริ่มตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 200 บาท และก็ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการล้างรถ เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงน้ำยาในการทำความสะอาดต่าง ๆ หากเปรียบเทียบโดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกันการที่คุณต้องเสียเวลาล้างรถเอง ใช้อุปกรณ์ตัวเอง รวมไปถึงความเหนื่อยล้าหลังจากการล้าง บริการล้างรถในคาร์แคร์นี่แหละคือทางออกที่จะช่วยให้รถของคุณกลับมาสะอาดดูดีขึ้นมากที่สุด


ข้อควรระวังก่อนนำรถเข้าคาร์แคร์ มีอะไรบ้าง ?
แม้ว่าการนำรถเข้าคาร์แคร์จะช่วยในเรื่องของความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการก้ม ๆ เงย ๆ ล้างรถของตัวเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการนำรถเข้าคาร์แคร์นั้นยังมี “ข้อควรระวัง” ด้วยเช่นกัน อะไรบ้างที่ต้องรู้ตามไปดูกันเลยกับ 7 ข้อต่อไปนี้

ก่อนนำรถยนต์เข้าไปใช้บริการที่ร้านล้างรถ (คาร์แคร์) ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ให้เก็บทรัพย์สินและของมีค่าต่าง ๆ รวมถึงเอกสารสำคัญออกจากตัวรถให้หมด
ไม่ควรเปลี่ยนร้านล้างรถบ่อย ๆ ควรเลือกใช้บริการเฉพาะกับร้านที่ไว้ใจได้ รวมถึงคอยสังเกตรถยนต์ของตัวเองให้ดีในระหว่างล้าง ไม่ควรทิ้งรถไว้เลยหากเป็นคาร์แคร์ร้านใหม่ที่คุณไม่เคยไปใช้บริการมาก่อน
การใช้บริการคาร์แคร์มักต้องฝากกุญแจเอาไว้เสมอ หากรถยนต์ของคุณเป็นกุญแจรีโมท แนะนำให้นำกุญแจสำรองที่เป็นลูกกุญแจฝากไว้จะดีกว่า เพราะถ้าหากพนักงานตุกติก นำกุญแจรถไปปั๊มก็จะทำได้แค่กุญแจสำรองเท่านั้น
หากเข้าใช้คาร์แคร์ที่อยู่ในห้าง และคุณไม่ได้อยู่เฝ้ารถ หากมีคนมาขอใบรับรถจากคุณ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ไม่ควรให้ “เด็ดขาด” เพราะอาจจะเป็นกลลวงของมิจฉาชีพได้อีกทางหนึ่ง
หากนำรถไปใช้บริการแบบที่ใช้เวลาไม่นาน อาทิ ล้างรถ หรือดูดฝุ่นทั่วไป แนะนำให้นั่งรออยู่ที่คาร์แคร์เลย เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมจากการแอบอ้าง
หากจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายรถ เป็นไปได้ควรทำด้วยตัวเอง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรกำชับพนักงานว่า “ให้ระวังเป็นพิเศษ” พร้อมกับจับตามองตลอด เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชนกับคันอื่น ๆ ได้
เมื่อถึงเวลารับรถ แนะนำให้ตรวจเช็คดูสภาพรถโดยรอบคัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีริ้วรอย หรือความเสียหายใด ๆ ระหว่างที่รถยังอยู่ในคาร์แคร์
จะเห็นได้ว่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่เรานำมาบอกต่อคุณในวันนี้ ถือเป็นข้อที่หลายคนมักมองข้ามอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่รักรถจริง ๆ บอกเลยว่าอย่าละเลยทั้ง 7 ข้อเมื่อสักครู่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นรถยนต์คู่ใจของคุณอาจจะเกิดความเสียหาย หรือสูญหายก็เป็นได้

นำรถยนต์เข้าคาร์แคร์ดีกว่าล้างรถเองอย่างไร ?
การเลือกใช้บริการคาร์แคร์ “อย่างน้อย” เดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือในช่วงฤดูฝน แถมยังต้องการการบริการแบบจัดเต็ม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “มากกว่าการล้างรถธรรมดา” อาทิ ตรวจเช็คระบบต่าง ๆ การขัดเคลือบเงา และอื่น ๆ ล้วนมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

ข้อดีของการล้างรถที่คาร์แคร์
แน่นอนว่าเครื่องไม้เครื่องมือของร้านคาร์แคร์ ย่อมพร้อมกว่าการล้างเองที่บ้านมากกว่า จึงสามารถล้างได้สะอาด รวดเร็ว และประหยัดเวลาได้ค่อนข้างมาก แถมผู้ให้บริการก็มีความเป็นมืออาชีพ ทำให้คุณเจียดนำรถเข้าไปล้างที่คาร์แคร์ได้อย่างอุ่นใจ หายห่วง และสามารถช่วยชุบชีวิตสีรถของคุณให้กลับมาดูดีสดใสได้มากขึ้นตามลำดับขั้นของการให้บริการ
ข้อสังเกตหากนำรถเข้าคาร์แคร์
เพราะการนำรถเข้าคาร์แคร์คือการ “ใช้บริการ” อีกรูปแบบหนึ่ง แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่หลักร้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทรถ ประเภทการใช้บริการ และอื่น ๆ รวมถึงยังมีความเสี่ยงในเรื่องของ “พนักงานชุ่ย” ล้างไม่สะอาด และเสี่ยงต่อการเกิดทรัพย์สินสูญหายหรือเสียหายได้

ดูแลรักษารถยนต์ ด้วยการล้างรถควรทำบ่อยแค่ไหน ?
สำหรับคนที่เพิ่งซื้อรถใหม่ แต่ยังไม่รู้วิธีการดูแลรักษารถยนต์ ว่าควรจะเช็ดล้างปัดถูตอนไหน เวลาใดบ้าง เพราะฉะนั้นเราจึงได้รวบรวมรายละเอียดมาให้คุณทำความเข้าใจแล้ว บอกเลยว่าช่วยให้รถยนต์คู่ใจของคุณสะอาดเอี่ยมไปเลย!

การล้างทำความสะอาดภายนอกรถยนต์ ควรทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตอนที่รู้สึกว่ารถยนต์ของคุณสกปรกมากเกินไป
การทำความสะอาดภายใน ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือตอนที่รู้สึกว่ารถยนต์ของคุณสกปรกมากเกินไป
การลงแว็กซ์เคลือบสี แนะนำให้ทำ “ทุกครั้ง” หลังล้างสีรถ ปกป้องสี และความเงางาม
Detailing เคลือบแก้ว ควรทำปีละ 2 ครั้ง เพื่อดูแลสภาพสีรถ ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน หรือรอยขนแมว
การดูแลรักษารถยนต์ แนะนำให้ทำแบบพอดี อย่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลเสียต่อรถยนต์คู่ใจของคุณได้ ซึ่งถ้าหากคุณไม่มีความรู้ความเข้าใจในส่วนนี้ สามารถให้ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ตรวจสอบ และแนะนำการดูแลเพิ่มเติมได้ โดยเฉพาะการนำรถเข้าคาร์แคร์ แต่ถ้าหากกังวลว่ารถจะเกิดความเสียหาย “ประกันรถยนต์” คือตัวช่วยที่ทำให้คุณอุ่นใจได้

หลายคนมีประกันรถยนต์อยู่แล้ว แต่รู้มั้ย เรา ประกันออนไลน์ ทำไมถึงดีกว่า?
“เรา” คือผู้ให้บริการประกันภัยรถยนต์ “อันดับหนึ่ง” ด้วยการพัฒนาระบบคำนวณเบี้ยประกันรถที่เป็นธรรม เพื่อให้คุณหรือลูกค้าคนอื่น ๆ จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ในราคาที่ถูกกว่า ที่นี่กล้ารับประกันราคาดีที่สุด ยืนดีคืนเงิน 100% หากคุณพบเจอที่อื่นที่ถูกกว่าภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์เดียวกัน


มากกว่าแค่ประกันรถ แต่คือการดูแล
เพราะเราใส่ใจเพื่อให้บริการอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาฉุกเฉิน ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณ “ภายใน 30 นาที” เพื่อให้คุณได้รับบริการอย่างรวดเร็วทันใจ และไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้าเพียงลำพัง ด้วยประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด แต่ถ้าหากคุณยังมองภาพไม่ออก เราได้ลิสต์ข้อดีมาให้คุณ ดังนี้

มีประกันรถยนต์ทุกประเภทให้เลือกได้ตามใจ แถมราคาไม่แพง สามารถเช็คเบี้ยประกันผ่านเว็บได้ทันที
ชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต โอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต Banking แถมยังสามารถ “ผ่อน” นานสุด 10 งวดอีกด้วย
คุณจะได้รับตารางกรมธรรม์ภายใน 14 วันทำการ พร้อมส่งต่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งด้านการให้บริการและประสบการณ์ด้านการเคลม
ติดต่อง่าย ๆ ผ่านหลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์ เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
เช็คข้อมูลความคุ้มครองในกรมธรรม์ที่มีอยู่ผ่านแอปได้ตลอดเวลา ไม่ต้องพกเอกสาร

สอบถามเพื่มเติมได้ที่   
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้