ตามกฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเวลาไหนไม่โดนปรับ

312 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตามกฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเวลาไหนไม่โดนปรับ

สำหรับท่านที่กำลังมองหารถบรรทุก มาใช้ในกิจการของตัวเองก็ดี หรือขับเองใช้เองก็ดี แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย หรือ ข้อควรรู้ก่อนขับรถบรรทุก วันนี้แม็กซ์เครน มีข้อมูลดีๆมาฝากกันครับ

ก่อนขับรถบรรทุก ต้องรู้อะไรบ้างนั้น อันดับแรก ควรเรียนหัดขับก่อน เพราะการขับรถบรรทุกนั้น จะมีข้อแตกต่างกว่าการขับรถยนต์ทั่วไปอยู่หลายอย่าง ถึงแม้ว่าจะขับรถยนต์เป็นอยู่แล้ว ก็ใช่ว่าจะขับรถบรรทุกได้ง่ายๆ เพราะด้วยช่วงความยาว น้ำหนัก ขนาดรถที่ต่างกันอย่างมาก ดังนั้นแนะนำว่าควรมีการเรียน ฝึกขับรถบรรทุกเสียก่อน เพื่อเพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถก่อนออกถนนจริง

เมื่อขับรถบรรทุกเป็นแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องมีคือ ใบขับขี่

ตามกฎหมายบนท้องถนนนั้น ไม่ว่าประเภทใด ตามกฎหมายแล้ว จะต้องมีใบอนุญาตในการขับขี่ ในส่วนของรถบรรทุกนั้น ใบขับขี่จะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

–ใบอนุญาตขับรถทุกประเภท บ.2 คือ ใบอนุญาตขับรถประเภทส่วนบุคคล คือ การอนุญาตให้สามารถขับขี่เพื่อขนส่งส่วนบุคคลได้ เช่น รถบัส, รถบรรทุก 6-10 ล้อ (ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว)

–ใบอนุญาตขับรถทุกประเภท ท.2 คือ ใบอนุญาตประเภทขับขี่เพื่อขนส่งได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นใช้สำหรับ ขนส่งเพื่อการค้า ธุรกิจส่วนตัว ใช้ขนส่งเพื่อรับจ้าง การขนส่งคน สิ่งของ หรือประกอบธุรกิจการขนส่งได้ เช่น รถบรรทุกสาธารณะ รถบัส, รถบรรทุก 6-10 ล้อ (ป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง)

ต่อมามาทำความรู้จักกับ การจำกัดเวลา และพื้นที่วิ่งของรถบรรทุก ในส่วนของพื้นที่ในกรุงเทพนั้น การจราจร ติดขัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วนช่วงเช้าและช่วงเย็นหรือวันหยุดยาวต่างๆ การจราจรเรียกได้ว่าติดหนักมาก จึงมีกฎหมายออกมากำหนดห้ามรถบรรทุกวิ่งพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน ดังนี้

วิ่งบนทางราบ

–ห้ามรถบรรทุกก๊าซ วัตถุไวไฟ ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป และรถพ่วง เดินรถในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ทุกวัน เว้นวันอาทิตย์

–รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งในเวลา 06.00-09.00 น. และ เวลา 16.00-20.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ

–รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งในเวลา 06.00-10.00 น. และ เวลา 15.00-21.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ

–ห้ามรถบรรทุกอื่น เช่น บรรทุกซุง เสาเข็ม เดินรถ เวลา 06.00-21.00 น.

วิ่งบนทางด่วน

–รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00-20.00 น.

–รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งเวลา 06.00-09.00 น. และ 15.00-21.00 น.

–รถบรรทุกสารเคมี ห้ามวิ่งเวลา 06.00-10.00 น. และ 15.00-22.00 น.

 ต่อมาเราจะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำหนักบรรทุก หรือพิกัดน้ำหนักตามกฎหมายกำหนด

ตามประกาศกำหนดพิกัดน้ำหนักรถบรรทุก ได้กำหนดน้ำหนักของรถบรรทุกรวมน้ำหนักรถ เอาไว้ดังนี้

รถบรรทุกขนาด 4 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกินกว่า 9.5 ตัน

รถบรรทุกขนาด 6 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกิน 15 ตัน

รถบรรทุกขนาด 10 ล้อ ต้องบรรทุกไม่เกิน 25 ตัน

รถพ่วง 6 เพลา 22 ล้อ ต้องบรรทุกหนักไม่เกิน 50.5 ตัน

ทุกครั้งที่บรรทุกของ ต้องมีผ้าคลุมแน่นหนา และมีอุปกรณ์ล็อคเพื่อความปลอดภัย

การคลุมผ้าใบ จะต้องใช้ผ้าใบสีทึบ และยึดติดกับตัวรถให้มีความแข็งแรงพอที่ไม่ให้สิ่งของรั่วไหล ตกหล่น จนทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก หรือรถกระบะก็ตาม หากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก โดยมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท และ

หากเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น ผู้ประกอบการจะต้องชดใช้ตามกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์อีกด้วย

เพิ่มความปลอดภัยโดยการติดตั้งแผ่นสะท้อนแสง

แผ่นสะท้อนแสง จะทำหน้าที่สะท้อนแสง กับไฟหน้าของรถคันอื่นๆ เพื่อช่วยในการมองเห็น ขณะขับรถบรรทุกในตอนกลางคืน เพิ่มความปลอดภัย โดยรถบรรทุกทุกคัน จะต้องติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงให้ถูกตำแหน่ง โดยมีการประกาศนี้ บังคับใช้กับรถบรรทุกที่มีจำนวน เพลา ล้อและยางตั้งแต่ 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 6 เส้น ขึ้นไป (รถสิบล้อขึ้นไป) ยกเว้นรถลากจูง หากฝ่าฝืนจะผิด พรบ.ขนส่งทางบก โดยมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท

GPS คือสิ่งสำคัญ รถบรรทุกต้องติดตั้ง และเปิด GPS ตลอดเวลา

เป็นการบังคับใช้จากกรมการขนส่งทางบกโดยมีการกำหนดให้ รถเมล์หรือรถทัวร์ (รถโดยสารสาธารณะ), รถลากจูง, รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ทุกคันจะต้องติดตั้งระบบ GPS เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล กับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของภาครัฐ ทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมการขับขี่ เช่น การใช้ความเร็วในการขับขี่, เวลาในการเดินรถ รวมถึงพิกัดของตัวรถ หากไม่ติดตั้ง หรือไม่ดูแลรักษาสภาพเครื่องให้ส่งสัญญาณ GPS ได้ตามปกติ ถือว่ามีโทษ ปรับตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท และจะไม่สามารถต่อทะเบียนรถคันดังกล่าวได้

น้ำมันรถต้องเพียงพอกับระยะทาง

ทุกครั้งก่อนบรรทุกของเดินทาง ควรเช็คว่าน้ำมันรถเพียงพอต่อการวิ่งหรือไม่ ส่วนใหญ่ คนขับรถจะกะปริมาณน้ำมันไว้แล้วว่าจะสิ้นสุดที่ระยะจังหวัดใด เพราะการเข้าจอดเทียบเพื่อเติมน้ำมันรอบใหม่แต่ละครั้งนั้นกินเวลานาน เนื่องจากต้องต่อคิวนาน รวมถึงปั๊มสำหรับเติมน้ำมันรถบรรทุกนี้ไม่ได้สะดวกทุกที่ จะต้องเข้าจอดในปั้มเฉพาะรถบรรทุกอันมีพื้นที่เพียงพอให้เลี้ยวเข้าจอดและหักเลี้ยวกลับรถได้ถนัดกว่ากันด้วย

สอบถามเพื่มเติมได้ที่   
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้