เปลี่ยนรถใหม่ทุก 5 ปี VS ใช้คันเดียวไปยาว ๆ แบบไหนคุ้มกว่า?

1194 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปลี่ยนรถใหม่ทุก 5 ปี VS ใช้คันเดียวไปยาว ๆ แบบไหนคุ้มกว่า?

รถยนต์คือความภาคภูมิใจที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเรา คือเพื่อนคู่ใจที่พาเราไปในที่ที่เราต้องการ จึงควรเรียนรู้วิธีการรักษาและการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะนอกจากเรื่องของความคุ้มค่าแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเช่นกัน เราควรรู้ว่าสภาพของรถยนต์ใช้งานได้กี่ปี ต้องวางแผนให้ดีว่าถึงช่วงไหนควรจะเปลี่ยนรถใหม่ได้แล้ว เคยมีคำพูดที่ว่าในต่างประเทศนิยมจะเปลี่ยนรถใหม่เมื่อใช้ได้เพียงไม่กี่ปี 5 – 7 ปี ก็เปลี่ยนคันกันแล้ว อย่างในประเทศญี่ปุ่น เมื่อรถมีอายุเข้าปีที่ 3 จะมีค่าใช้จ่ายจุกจิกจากการตรวจสภาพรถรวมไปถึงเรื่องของภาษีที่เมื่อรถปีเก่าขึ้นภาษีจะแพงขึ้น เทียบกับขายแล้วออกรถป้ายแดงมีค่าใช้จ่ายจะพอ ๆ กัน แต่สำหรับในไทย ไม่ได้มีการเก็บสถิติข้อมูลเอาไว้เป็นตัวเลขที่ชัดเจนว่าควรเปลี่ยนรถใหม่ตอนไหน โดยเหตุผลหลัก ๆ ที่เปลี่ยนคันคือเรื่องการบำรุงรักษา ต้องการให้รถที่ใช้งานอยู่ในประกันการดูแลจากแบรนด์อยู่เสมอ หากมีปัญหาพร้อมส่งเข้าศูนย์ รวมไปถึงเรื่องเทคโนโลยีการใช้งานที่อัพเดท และความปลอดภัยที่มากับรถรุ่นใหม่ ๆ แต่หลักการนี้อาจใช้ไม่ได้กับรถทุกรุ่นทุกแบรนด์ รวมไปถึงผู้ใช้รถทุก ๆ คน แบบนี้เราจะเลือกเปลี่ยนรถบ่อยแค่ไหน เปลี่ยนรถใหม่ทุกกี่ปี ลองพิจารณาจากหลาย ๆ มิติไปพร้อม ๆ กัน

ถ้ายังใช้รถไม่คุ้มต้องเปลี่ยนคันมั้ย?
มีนักขับจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยต่อการเปลี่ยนรถใหม่ทุก 5 ปี บางคนก็บอกว่าตนเองนั้นดูแลรถได้ดี เข้าศูนย์ซ่อมตามรอบทุกครั้ง เปลี่ยนอะไหล่ที่จำเป็นทุกอย่างตามรอบที่กำหนดแล้ว ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของรถที่ไม่ค่อยขับรถออกไปไหน ปีหนึ่งใช้งานรถได้ยังไม่ถึง 50,000 กิโลเมตร เรียกว่า “รถแทบไม่ช้ำ” ทำไมต้องเปลี่ยนรถใหม่ทุก 5 ปี

นอกจากนั้นในประเทศไทย ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์ยังมีการอนุญาตให้ต่อทะเบียนรถที่มีอายุมากกว่า 7 ปี ทำให้หลายคนสงสัยและสับสนว่าเรายังจะสามารถใช้งานรถที่มีอายุมากกว่า 5 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถใหม่ได้มั้ย แล้วการที่ในหลาย ๆ ประเทศเปลี่ยนรถเมื่อใช้งานมาแล้ว 5 ปี จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับใครอีกหลายคน


ใครที่ต้องเปลี่ยนรถยนต์ทุก 5 ปี?
มีบางอาชีพที่ต้องใช้รถยนต์บ่อยครั้งและเป็นประจำ มีแนวโน้มการใช้งานรถที่หนักกว่าการใช้งานปกติ เช่น การใช้รถเพื่อการรับส่งสินค้าหรือผู้โดยสาร แน่นอนว่าการใช้งานรถเหล่านี้ย่อมหนักหน่วง และใช้เวลาในการขับรถยาวนานกว่า ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือการเสื่อมสภาพรถที่ไวกว่า 

การขับรถในรูปแบบนี้ควรทำการเปลี่ยนรถของคุณในทุก 5 ปี จะเพิ่มปลอดภัยสำหรับตัวคุณเองและคนที่ใช้รถใช้ถนน เพราะรถที่เสื่อมสภาพ แม้ว่าจะมีการซ่อมบำรุงอย่างดีก็อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา และบางปัญหาอาจใหญ่โตเกินกว่าที่เราจะคาดคิด

เราควรใช้รถให้ถึงอายุการใช้งานดีมั้ย?
แม้ว่าเรายังสามารถใช้รถเก่าที่มีอายุมากกว่า 7 ปี สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ทุกอย่างมีข้อจำกัดด้วยกันทั้งนั้น อย่างการใช้รถแบบไม่บันยะบันยังจนรถเก่ามาก และมีปัญหาหลายอย่างตามมาทั้งการซ่อมบำรุง การสร้างมลพิษ และความปลอดภัยบนท้องถนน คงถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนหรือมองหารถยนต์คันใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นั่นเอง

คุณควรเปลี่ยนรถใหม่แล้วหรือยัง?
เพื่อช่วยให้คุณสามารถพิจารณาได้ว่า ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนรถใหม่แล้วหรือยัง เราขอใช้คำถามนี้เป็นตัวนำสำหรับการตัดสินใจเพื่อมองหารถคันใหม่ของคุณดังต่อไปนี้

1. รถกี่ปีที่ควรเปลี่ยนคัน
สำหรับอายุการใช้งานของรถในระยะเวลา 10 ปี ถือว่ากำลังเหมาะสม ไม่ว่าคุณจะใช้งานรถนี้มากน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะในทุก 10 ปี จะมีการออกรถในรูปแบบใหม่แม้ว่าจะมีการใช้ชื่อรุ่นเดิมก็ตาม นั่นหมายถึงความสามารถในการซ่อมบำรุงจะลดลงมาด้วย ทั้งในเรื่องของการขาดแคลนอะไหล่ที่เป็นปัญหาสำคัญและความสามารถของช่างที่หาผู้มีความรู้มาซ่อมรถรุ่นเหล่านั้นไม่ได้แล้ว


2. รถส่งสัญญาณเตือนว่าควรซื้อรถใหม่
รถจะมีสัญญาณเตือนเราอยู่ตลอดในขณะขับรถเพื่อบอกให้คุณรู้ว่าได้เวลาเปลี่ยนรถใหม่แล้ว อาการพื้นฐานที่บอกให้คุณเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารถของคุณเริ่มเก่าเกินไปและไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน ได้แก่ การควบคุมรถที่ยากขึ้น ปัญหารถกินน้ำมันมากขึ้น และรถของคุณเริ่มมีอาการรถเสียแบบจุกจิกเพิ่มขึ้นตลอดเวลา นั่นคือสัญญาณบอกให้คุณรู้ว่าต้องเปลี่ยนรถใหม่ได้แล้ว

3. จำนวนอะไหล่ที่มีอยู่ในท้องตลาด
จำนวนอะไหล่ที่มีอยู่ในท้องตลาดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่บอกคุณว่าถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ เพราะรถบางรุ่นถูกสร้างออกมาใช้งานได้ไม่กี่ปีก็ไม่มีอะไหล่ซ่อมบำรุง แบบนี้ไม่ต้องรอถึง 5 ปี ก็ต้องเปลี่ยนรถใหม่กันแล้ว เพราะจะมีปัญหาตามมาให้คุณได้ปวดหัวแบบไม่รู้จบอย่างแน่นอน

สอบถามเพื่มเติมได้ที่   
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-7856

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้