7 สิ่งอันตราย!! ที่ไม่ควรทำในขณะขับรถ

125 จำนวนผู้เข้าชม  | 

7 สิ่งอันตราย!! ที่ไม่ควรทำในขณะขับรถ

   1. การจับพวงมาลัย บังคับรถด้วยมือเพียงข้างเดียว เป็นสิ่งที่ประมาทอย่างมากเพราะจะทำให้ไม่สามารถบังคับทิศทางพวงมาลัยได้ถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น เช่น มีหลุมถนน มี กรวยจราจร ขวางด้านหน้า เพื่อกำหนดเส้นทางถนน และถ้าต้องหักหลบรถคันอื่นแบบกะทันหัน เช่น มีมอเตอร์ไซค์ปาดหน้า การขับรถด้วยมือข้างเดียว จะทำให้พลาดพวงมาลัยหลุดออกจากมือได้ง่าย ทำให้รถเสียการควบคุม รถยนต์เสียหลัก ทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้



      2. การขับรถโดยที่มองกระจกหน้าอย่างเดียว ไม่มองกระจกหลังเลย แบบนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการขับรถขวางการจราจร เช่น การขับรถแช่เลนขวา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเพราะขวางไม่ให้รถคันอื่นแซงขึ้นไปได้ และทำให้รถคันอื่น ๆ ต้องแซงซ้ายซึ่งเป็นจุดบอด ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้ง่าย หรือทำให้รถพยาบาลไม่สามารถขอทางไปส่งคนบาดเจ็บได้ เป็นต้น การมองกระจกหลังจึงมีประโยชน์อย่างมาก ผู้ขับขี่ทุกคนต้องให้ความสำคัญมากขึ้น



      3. การกินน้ำและขนมระหว่างการขับรถจะทำให้คุณต้องใช้มือข้างหนึ่งไปหยิบจับอาหารเหลือมือแค่ข้างเดียวที่จับพวงมาลัย และทำให้ไม่มีสมาธิอยู่กับการขับรถยนต์ นอกจากนี้ก็อาหารหรือน้ำดื่มที่ต้องมีการเปิดปิดภาชนะ ก็จะทำให้บางจังหวะ คุณจะต้องมีการใช้มือทั้งสองข้างช่วยหยิบจับ จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น โดยเฉพาะ ถ้าขับไปแล้วเจอจุดที่มีการก่อสร้างอย่างกะทันหันคุณอาจจะไม่ทันสังเกต ป้ายเตือน กรวยจราจร หรือ เสาหลักจราจร ที่ตั้งกั้นไว้อยู่ ก็จะไม่สามารถที่จะเลี้ยวหลบกรวยจะเลี้ยวหลบได้ทัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างร้ายแรงได้ และถ้าตกใจจนหักหลบเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น ก็จะเป็นปัญหาให้ต้องเสียงานไปทั้งวันเพื่อรอการตกลงกับบริษัทประกันด้วย



      4. การขับรถอย่างไม่มีสมาธิเนื่องจากสนใจดูหนังฟังเพลงไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงการดูแผนที่ในโทรศัพท์มือถือ สิ่งเหล่านี้จะทำให้สมองต้องใช้ในการคิดหลายเรื่องพร้อม ๆ กัน ไม่มีสมาธิกับการขับรถบนถนน ถ้ามีทางแยก ทางเลี้ยวโค้ง ทางเบี่ยง ฯลฯ ก็อาจจะตัดสินใจช้า บังคับรถไม่ทัน หรือถ้ามีคนหรือรถคันอื่นวิ่งตัดหน้าขึ้นมา ก็จะไม่สามารถแตะเบรกได้ทันด้วย
วิธีการแก้ไข คือ ให้ตั้งค่าการเปิดเพลงหรือหนังให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง และทำการศึกษาเส้นทางการเดินรถด้วยแผนที่และระบบ gps ให้เข้าใจล่วงหน้า ก็จะทำให้คุณมีสมาธิกับการขับรถมากยิ่งขึ้น



      5. กรณีที่คนขับรถชอบเปิดเพลงเสียงดังเพื่อให้แก้ง่วงต้องระวัง เพราะมีการวิจัยว่าถ้าดังมากกว่า 95 เดซิเบล จะทำให้คุณไม่สามารถที่จะได้ยินเสียงรอบข้างได้อย่างปกติและไม่สามารถตอบสนองต่อเสียงแตรหรือการเตือนของคนรอบข้างได้ทันเวลา นอกจากนี้ เมื่อเปิดเพลงดัง ๆ ก็จะทำให้มีการขับรถด้วยความเร็วสูงตามมากด้วย จนไม่ทันเห็น ป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร ทางม้าลาย ทางข้ามถนน จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถชนคนข้ามถนน หรือชนกับรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ที่วิ่งสวนมาตามสัญญาณไฟจราจร แล้วทำให้ถูกปรับหรือถูกลงโทษตามกฎหมายตามความรุนแรงของอุบัติเหตุได้



      6. การคุยโทรศัพท์หรือการใช้โปรแกรมสื่อสารเพื่อคุยธุรกิจต่าง ๆ ในระหว่างการขับรถ ทำให้ขาดสมาธิในการตัดสินใจ และทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะขับรถออกเลยเส้นทางที่จะไป ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุจากพยายามถอยหลังในพื้นที่เสี่ยง หรือการรีบหาที่ยูเทิร์นในบริเวณที่มีรถคันอื่นวิ่งมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังทำให้เสี่ยงต่อการขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง เพราะไม่ทันสังเกต เกิดการชนคนหรือรถคันอื่น ๆ ได้ ก่อนจะเดินทาง จึงควรคุยโทรศัพท์ให้เรียบร้อยหรือปิดเสียงเครื่องชั่วคราว



      7. ไม่ควรถอดรองเท้าหรือวางของ เช่น ขวดน้ำ ไว้ใต้ที่วางเท้าด้านคนขับ เพราะบริเวณคันเร่งและเบรก เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งถ้าของสามารถเคลื่อนไปอยู่ใต้เบรก จะเป็นการกั้นไม่ให้คุณเบรกรถยนต์ได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากรถชนได้ ดังนั้น การถอดรองเท้าก่อนขับรถ ควรจะถอดวางเอาไว้ด้านหลังรถที่ไม่สามารถเลื่อนมาด้านหน้าได้ และไม่วางขวดน้ำที่พื้นรถ เพราะเสี่ยงต่อการกลิ้งมาด้านคนขับรถได้ จะช่วยป้องกันปัญหาอุบัติเหตุขั้นร้ายแรงได้ดียิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้