ข้อคิดจากหนังสือ ทิ้งนิสัยไม่ดีแล้วชีวิตจะมีความสุข

372 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อคิดจากหนังสือ ทิ้งนิสัยไม่ดีแล้วชีวิตจะมีความสุข

1) ทิ้งคำพูดแง่ลบ 

เช่น 

“ฉันทำไม่ได้” 

“เปล่าประโยชน์”

“เสี่ยงเกินไป”

“ทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”

.

เพราะสมองจะหยุดคิดสิ่งที่ซับซ้อนทันที 

จะปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ที่สมควรจะเผยออกมา

.

แต่ถ้าพูดในแง่บวก สมองจะสามารถคิดแก้ไขปัญหาต่างๆได้ 

มองเห็นความเป็นไปได้

และมุ่งมั่นทำจนสำเร็จได้มากกว่า 



2) ทิ้งการแสดงออกว่า “ฉันพยายามอยู่นะ”

ความพยายามไม่ได้วัดกันที่ระหว่างการลงมือทำ 

แต่วัดกันที่ผลลัพธ์ ถ้าคุณทำสำเร็จ = คุณมีความพยายามที่ดีมาก 

แต่ถ้าไม่ได้ผลลัพธ์ หรือทำไม่สำเร็จ = คุณยังพยายามไม่พอ 

.

เลิกบอกให้คนอื่น เห็นความพยายามของคุณ 

แต่จงคิดหาวิธีการทำให้สำเร็จ

และลงมือทำจนเกิดผลลัพธ์ 

.

สุดท้ายทุกคนจะมองเห็นความพยายามของคุณเอง 

โดยที่คุณไม่ต้องบอกเลย

 
ว่าพยายามมากแค่ไหน 



3) ทิ้งคำว่า “ยุ่ง”

ถ้าเอ่ยคำว่า “ยุ่ง” จนไม่เวลาทำงาน 

จะเผยให้เห็นว่าคุณคิดถึงแต่ตัวเอง 

รวมถึงเผยให้เห็นความไม่มั่นใจและอ่อนแออยู่ข้างใน

.

แทนที่จะบอกว่ายุ่งให้เปลี่ยนเป็น “งานนี้ฉันทำให้ก็ได้”

จะทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าคุณเก่ง 

และไว้วางใจมอบหมายงานให้ทำ 


4) ทิ้งการนินทาคนอื่น 

เพราะการประจานตัวเอง และอาจทำให้ตัวเองรู้สึกอึดอัดใจตามมา

.

จนไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนในองค์กร หรือในสถานที่นั้นได้อีก 

อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์



 
5) ทิ้งคำแก้ตัว 

ยืดอกรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผิดพลาดให้ดีที่สุด 

.

เลิกสรรหาคำพูดแก้ตัว เลิกหนีปัญหาแต่หาวิธีแก้ปัญหาแทน 

จะช่วยให้คุณดูน่าเชื่อถือมากกว่า



6) ทิ้งการอ้างหลักการพร่ำเพรื่อ

เปลี่ยนแปลงตัวเอง ลงมือทำจนเกิดผลลัพธ์ก่อน 

แล้วสิ่งอื่น คนอื่นๆ จะเปลี่ยนแปลงตามคุณเอง



“ความสัมพันธ์”

7) ทิ้งนิสัยเอาดีเข้าตัวเอง 

อย่านำเสนอตัวเองจนเกินไป แต่ควรเอ่ยอย่างนอบน้อม 

ว่าที่คุณทำสำเร็จได้ เพราะคนรอบข้างหรือใครบ้างที่คุณอยากขอบคุณเขา 



8) ทิ้งคนที่ไม่จำเป็นในชีวิต 

การที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น 

 
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณของคอนเนคชั่นที่เรามี 

.

เพราะคนประสบความสำเร็จหลายคนส่วนใหญ่ลงมือทำ

และเดินทางลุยเพียงลำพัง ไม่มีเวลาให้คนอื่นมาแทรกกลาง



9) ทิ้งการเปรียบเทียบกับคนอื่น 

ไม่ใช้มาตรฐานของคนอื่นมาตัดสินคุณค่าของตัวเราเอง

.

เช่น เห็นคนอื่นมีรถยุโรปคันใหญ่ 

ให้คิดว่ารถเป็นเพียงแค่ยานพาหนะไว้ใช้สำหรับเดินทางเท่านั้น 

แทนที่จะซื้อรถคันใหญ่ให้สิ้นเปลือง 

ซื้อรถซีดานที่ประหยัดทั้งภาษ๊และค่าน้ำมันไม่ดีกว่าเหรอ

.

หรือการที่เห็นคนอื่นซื้อบ้านหลังใหญ่

ให้คิดว่าบ้านเป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น 

.

แทนที่จะเสียเงินจำนวนมากไปกับบ้านหลังใหญ่

โดยไม่จำเป็น สู้เก็บเงินไว้ไปทำกิจกรรมอื่นที่ทำให้ชีวิตเราสนุกและมีความสุขดีกว่า

 


10) ทิ้งนิสัยขี้ทะนงตัว

 คิดถึงผลลัพธ์ให้มากกว่าหน้าตา 

เป็นอินทรีซ่อนเล็บ และทำในสิ่งที่คนธรรมดาไม่มีวันเข้าใจ 

.

เช่น เวลามีใครมาโต้เถียงกับคุณ ให้ถามกลับไปเลยว่า 

“แล้วคุณหาเงินได้เท่าไหร่?”

วิธีนี้อาจดูเหมือนอวดดี แต่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อตัวคุณเอง 



11) ทิ้งการเป็นคนดี

 เพราะการเป็นคนดีไม่ได้ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ

เนื่องจากไม่กล้าขัดแย้งกับใครเลย ไม่กล้าคิดต่าง 

ไม่กล้าทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ  ไม่กล้าค้านแต่อย่างใด

.

คนที่อยากให้คนอื่นมองว่าตัวเองดี  คือ คนที่ไม่จุดยืนเป็นของตัวเอง 

ทำตามความพึงพอใจของผู้อื่นเพียงเท่านั้น 

และจะไม่มีวันมีความสุขในชีวิตได้เลย

 .

 
จงเป็นคนแปลก ให้มากกว่าการเป็นคนดี 

และกล้าตอกกลับคนที่ใช้คำพูดกับคุณอย่างไม่มีมารยาท


12) ทิ้งการพยายามสร้างคอนเน็กชั่น

แล้วหันมาโฟกัสที่การสร้างผลงานแทน 

.

อย่ามัวเสียเวลากับการสร้างคอนเน็กชั่น  

จนไม่มีเวลาสร้างผลงานเพราะเมื่อไหร่ที่ลงมือทำจนผลงานคุณโดดเด่น 

คอนเน็กชั่นที่ดีจะหลั่งไหลเข้ามาหาคุณเอง 



13) ทิ้งความคาดหวังให้อีกฝ่ายตอบแทนกลับ 

ทำทุกอย่างด้วยความสนุก มีความสุข

เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง โดยเฉพาะกับผู้อื่น

อย่างไม่คาดหวังสิ่งตอบแทนใดๆ 



“เงินกับเวลา”



14) ทิ้งนิสัยอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง โดยไม่ลงมือทำ

 
 หากยังไม่รู้จักตัวเอง ควรอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง 

.

แต่เมื่อรู้แล้วว่าขคุณค่าของตัวเองคืออะไร มีความชอบ

ความถนัดแบบไหน ก็ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองอีกต่อไป 

แต่ให้เลือกอ่านหนังสือเฉพาะทางแทน 

.

ควรเช็คประวัติของผู้เขียนว่าประสบความสำเร็จด้านนั้นๆ  มาจริงหรือไม่

หรือแค่เขียนหนังสือโลกสวย เพื่อให้หนังสือขายดีเพียงเท่านั้น 

.

อย่าเสียเงินไปกับงานสัมมนาหรือสินค้าที่จัดขึ้น 

ควรมีกรอบความคิดเป็นของตัวเอง อ่านหนังสือ

แล้วนำมาปรับใช้ และลงมือทำจนเกิดผลลัพธ์

จึงจะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง


15) ทิ้งการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย

ควรเน้นประโยชน์ใช้สอย และความคุ้มค่าในการใช้สิ่งต่างๆ 

ให้มากกว่าแค่ความอยากได้ เพราะจะช่วยทำให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้น 

โดยไม่ต้องฝืนมากนัก 

 


16) ทิ้งนิสัยเก็บเงินแล้วไม่ยอมใช้ 

เช่น มีเสื้อโค้ท แต่ไม่ยอมเอามาใส่ เพราะกลัวเสื้อเปื้อน 

ก็เหมือนไม่ไม่มีเสื้อโค้ท

.

มีรถแต่ไม่ขับ เพราะกลัวเปลืองน้ำมัน ก็เหมือนไม่มีรถ 

.

เพราะฉะนั้นควรใช้เงินไปกับเรื่องที่มีประโยชน์

หรือทำให้คุณมีความสุขเสียบ้าง 

.

เช่น

การไปเที่ยวในสถานที่ที่คุณอยากไป 

การเรียนต่อ 

การทำธุรกิจ

หรือลงทุนทำอะไรใหม่ๆ ที่คุณอยากจะทำ 

.

ดีกว่าตายไป โดยยังไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ 

เพียงเพราะเสียดายเงินที่มัวแต่เก็บไว้

 
แต่ไม่เคยได้นำออกมาใช้บ้างเลย 



17) ทิ้งรูปถ่ายและสมุดบันทึกต่างๆ 

ไม่จำเป็นต้องเก็บรูปถ่าย สมุดบันทึก หรือเรื่องราวในอดีตไว้ 

เพราะสิ่งที่สำคัญกว่า คือ ปัจจุบัน และอนาคตของคุณเอง 

.

การจดจ่ออยู่กับปัจจุบันจะทำให้ปัจจุบันและอนาคตของคุณ

ดีขึ้นมากกว่าการหวนคิดถึงแต่อดีตที่ผ่านมา 

.

เพราะไม่ว่าในอดีตคุณจะทำดีมากแค่ไหน  แต่มาเสียตอนปัจจุบัน 

ผู้คนก็จะต่างกันตัดสินคุณ  ว่าคุณคงเป็นคนไม่ดีมานานแล้วสินะ 

.

ต่างกับถ้าในอดีตคุณประสบพบเจอกับเรื่องราวที่ไม่ดี

ความยากลำบาก แต่ปัจจุบันคุณทำชีวิตตัวเองดีมาก

ผู้คนจะต่างชื่นชมและมองคุณว่า ที่คุณมีชีวิตที่ดีขึ้น

และประสบความสำเร็จได้ คงเป็นเพราะผ่านเรื่องราวในอดีตแบบนั้นมาสินะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้